ลูกวัยทารก

ดูแลลูกวัยทารก ให้ห่างไกลความเจ็บปวดทางใจ

ผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดในวันนี้ หลาย ๆ คนเคยเป็นเด็กที่ผ่านความเจ็บปวดมาอย่างมากมาย ก่อเกิดกลายเป็นบาดแผลในจิตใจติดตัวมาจนกระทั่งกลายเป็นผู้ใหญ่ บาดแผลภายนอกเป็นสิ่งที่เรามองเห็นได้ หาทางรักษาจัดการได้ แต่บาดแผลภายในจิตใจเป็นสิ่งที่ยากจะตรวจสอบ แต่ถึงกระนั้นก็เป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อชีวิตของมนุษย์ในหลาย ๆ ด้านอย่างแท้จริง ดังนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่ที่อยากจะเลี้ยงลูกน้อยให้โตมาเป็นเด็กที่มีความสุข มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความเข้าใจอย่างแท้จริงถึงความถูกต้อง ก็จะต้องใส่ใจในการเลี้ยงลูกให้มีความฉลาดทางอารมณ์ตั้งแต่วัยเด็กทารก  ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการจัดการอารมณ์ของคุณพ่อคุณแม่เพื่อไม่ให้กระทบต่อลูกน้อยของคุณกัน

เด็กทารกรับรู้ได้ถึงความเศร้า 

บางพฤติกรรมของผู้ใหญ่ส่งผลต่อเด็กวัยแบเบาะได้อย่างที่คุณไม่รู้ตัว โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องประสบกับภาวะการหย่าร้าง จนกระทั่งกลายเป็นคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องแบกรับทั้งความคาดหวังการหาเงินมาเลี้ยงลูก การดูแลลูกที่จะต้องต่อเนื่องยาวไกลไปอีกระยะเวลาหลาย 10 ปี จนกว่าลูกจะสามารถดูแลตนเองหาเงินได้ ทำให้เกิดความเครียด, ความเศร้า, ความโกรธถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งอาจทำร้ายเด็กทำให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นมาได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงจำเป็นที่จะต้องมีสติให้มาก และพยายามหยุดกล่าวโทษตนเอง หยุดกล่าวโทษเด็กที่ไม่ประสีประสา และหันมาหาทางจัดการกับอารมณ์และหาทางแก้ไขสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้นให้คลี่คลายอย่างดีที่สุด

โดยความรุนแรงในครอบครัวเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเด็กเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเด็กจะไม่เห็นหรือไม่ได้ยินเกี่ยวกับความรุนแรงนั้น แต่ก็จะส่งผลต่อพฤติกรรมของพ่อแม่ที่กระทำต่อเด็กในหลาย ๆ ด้าน เช่น พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลใส่ใจทารกมากพอ, ไม่มีเวลามาเล่น, มาพูดคุยมาร้องเพลงมากล่อมเด็กเข้านอน, เด็กขาดการป้อนอาหารอย่างเหมาะสม, ขาดการกอดการให้ความรักต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองขาดความรักได้

ในยามที่คุณเกิดอารมณ์ท้อแท้หรือเกิดความเศร้าในการเลี้ยงลูกขึ้นมา ให้คุณลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้

  • ในกรณีที่คุณกำลังอุ้มลูกอยู่ให้วางเด็กลงอย่างนุ่มนวลในที่ ๆ ปลอดภัย เช่นวางในเปลเด็ก หรือวางมุมที่จะเอาไว้เป็นมุมที่นอนของเด็ก หายใจเข้าลึก ๆ หรือพยายามอยู่ให้ห่างจากลูกของคุณ
  • ใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาทีตามลำพังเพื่อสติสงบสติอารมณ์
  • โทรหาใครสักคนเพื่อพูดคุยผ่อนคลายความเครียดในจิตใจ เช่น สมาชิกในครอบครัว, เพื่อนสนิท หรือกรมสายด่วนสุขภาพจิต

สุดท้ายนี้สำหรับคุณผู้อ่านที่กำลังประสบปัญหาในกรณีที่กำลังจะเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นั้นขอเป็นกำลังใจให้ และอย่าโทษตนเองพยายามฟื้นฟูความเข้มแข็งในจิตใจให้เพิ่มมากขึ้นโดยเร็ว และหาทางแก้ปัญหาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างครอบครัวที่มีความสุขในแบบของคุณเอง